วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไปกินมื้อเที่ยงกัน ที่วัดแสงสิริธรรม

อยากทานก๊วยเตี๋ยวต้มยำหมูหมักนุ่มรสชาติอร่อยสุด เข้มข้นจนไม่ต้องปรุง หรืออาหารตามสั่งหลากหลายเมนู ขอเชิญครับ เข้ามาซอยท่าอิฐ ถนนรัตนาธเบศร์ เข้ามาเรื่อยๆตามถนน ไม่ต้องเลี้ยวไหนทั้งสิ้น วิ่งตามถนนหลักมาจนสุดทาง จะเจอวัดแสงสิริธรรม ก็จอดรถตามอัธยาศัย เดินลงโป๊ะแพทางขวามือ จะพบว่าโป๊ะนี้ขาย ก๊วยเตี๋ยวต้มยำ กับอาหารตามสั่ง และร้านน้ำสองร้าน การบริการก็แบบชาวบ้านๆ น่ะครับ กันเองกันเอง


เมนูแนะนำก็คงเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย คือ ก๊วยเตี๋ยวหมูต้มยำมะนาวสด ความเด็ดดวงอยู่ตรงหมูหมักจนมุ่ม กับน้ำที่ปรุงรสแบบเข้มข้นจนไม่ต้องปรุง ที่ผมสั่งประจำ คือ บะหมี่ต้มยำ กับ เส้นเล็กแห้ง...พูดแล้วแซ่บน้ำลายไหล 
อ้อ..มีเรื่องต้องระวังอย่างนึงคือ พี่คนทำแกค่อนข้าง error นิดๆ ถ้าลูกค้าเยอะๆ ผมจะได้เมนุประจำผมสลับกันบ่อย คือจะได้เป็นบะหมี่แห้ง กับเส้นเล็กต้มยำ ทางที่ดีควรจดใส่กระดาษให้แกจะแน่นอนที่สุด 


เลยเข้าไปก็จะเป็นอาหารตามสั่ง รูปแบบอาหารก็เหมือนร้านตามสั่งทั่วไป แต่เสน่ห์ของร้านนี้อยู่ที่แม่ค้าสว..เอ้ยไม่ใช่ รสชาติอร่อย ถึงเครื่อง ที่สำคัญ ราคาครับ เป็นกันเองมากในขณะที่ปริมาณที่ได้ ถือว่าราคาถูกเลยดีกว่า 
เมนูแนะนำร้านนี้ที่ผมชอบ คือ พวกผัดเผ็ด หรือ ผัดกระเพราราดข้าวกับไข่เจียว จานนี้ก็แค่ 40 บาท อิ่มหมีพีมันไปตามๆกัน


เลยเข้าไปอีกแพก็จะมีร้านขนมจีน น้ำยา แกงเขียวหวาน แกงไตปลา รสเด็ด  รวมถึงขนมหวาน  ข้าวเหนียวสังขยา มะม่วงกวน แถมด้วยข้าวเหนียวน้ำกะทุเรียน หรือ จะรับทุเรียนเป็นลูกกันเลยก็ได้



อย่าลืมนะครับ ถ้ามีโอกาสผ่านมาแถวซอยท่าอิฐลองแวะเวียนเข้ามาลิ้มลองรสชาติอาหารแบบชาวบ้านๆ สไตล์ชาวนนทบุรีกันนะครับ













วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เด็กไทย ศิลปไทย...

สวัสดีครับ
เดือนนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้ ไปสุพรรณบุรีซะสามครั้ง...
ก็ว่างๆไม่รู้จะทำอะไรเลยขับรถเล่นไปเรื่อยเปื่อย
ครั้งแรกไปกับรุ่นน้อง แวะไปตลาดสามชุก ได้เจอน้องๆหลานๆ ที่เป็นเด็กนักเรียนมาตั้งวงเล่นดนตรีไทย



แล้วพออีกสองสัปดาห์ผมก็ไปอีก คราวนี้ไปเช่าพระที่วัดป่าเลยไลย์ครับ พอจอดรถก็เจอเสียงเพลงแว่วมา เลยเดินไปดู ปรากฏว่าก็เจอวงดนตรีเด็กๆอีกครับ แต่คนละวงกับที่สามชุกนะ ที่สามชุกเป็นวงบรรเลงดนตรีไทย แต่ที่วัดป่าฯ นี่เป็น "ลำตัด"ครับ ..แล้วร้องกันได้แบบที่เรียกว่า ไพเราะมากๆๆๆๆๆๆ สมศักดิ์ศรีชาวสุพรรณบุรี ธานีอันเป็นแหล่งกำเนิดน้องร้องระดับชื่อก้องฟ้าเมืองไทยหลายต่อหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นครูสุรพล สมบัติเจริญ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ หรือจะเป็นราชินีลูกทุ่งพุมพวง ดวงจันทร์ หรือแม้แต่พี่แอ๊ด คาราบาว ราชันย์เพลงเพื่อชีวิต

น้องตัวเล็กคนนี้เสียงใสมาก

แต่ตอนผมจะกลับสิครับ เดินออกมาอีกที ต้องตะลึงกับน้องคนนี้ (คนกลางตัวสูงสุด)  เสียงน้องเขาจะเรียกว่าอะไรล่ะ...พวกเวทีประกวดแล้วต้องกดโทรศัพท์โหวตกัน หรือพวกที่ต้องไปนอนสุมหัวกันในบ้านหลังนึงเนี่ย ผมว่าเจอน้องคนนี้อาจจะเกิดยากเหมือนกันนะ..วัดจากคุณภาพหูผมนะ

ที่เล่ามานี่ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ แค่อยากจะเห็นเด็กไทยอยากที่จะมีความเป็นไทย นิยมไทย รักในศิลปะไทยแบบนี้มากๆ ...ให้มากจนเราส่งออกไปดึงใจคนชาติอื่นบ้าง อยากให้คนไทยเราไปเป็นไอดอลให้คนชาติอื่นอยากเป็นแบบเราบ้าง ไม่ใช่อะไรก็มีแต่เราอยากจะเป็นญี่ปุ่น เป็นเกาหลีกันซะหมด
อ่ะนะ คนแก่แล้วก็งี้แหละ บ่นไปเรื่อย ไปก่อนล่ะครับผม






วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มะนาวดอง 80 ปี....????

สวัสดีครับ ดูหัวข้อแล้วท่านคงนึกว่า "อะไรมันจะขนาดนั้นฟระ ดองไว้แปดสิบปีมันจะเหลืออะไรให้กิน"

ไม่ใช่อย่างง้านนนน...คือว่าร้านนี้เขาเปิดมา 80 ปี ครับ 80 ปี ที่ทำมะนาวดองขาย

ร้าน ลิ้มง้วนกี่ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี อยู่ทางท้ายตลาด (รึเปล่า) คือไม่ได้อยู่ในตลาดที่นักท่องเที่ยวชอบไปเดินกันน่ะครับ

ไปทางนี้...นี่ทางนี้

อ่ะ เจอแล้ว ร้านก็ดูเก่า เก๊า เก่า สมกับที่เปิดมานาน



หน้าร้านจะมีป้ายบอกไว้ดังนี้ ..(ภาพโดย นายตั้ม ชาติวัฒน์ สอนชุ่มเสียง)



เดินไป ก็จะเจอเฮียเจ้าของร้านออกมาต้อนรับ เฮียแกอารมณ์ดีครับ..(ภาพโดย นายตั้ม ชาติวัฒน์ สอนชุ่มเสียง)


การไปครั้งนี้เป็นการไปครั้งแรกของผม แต่เป็นการไปครั้งที่สองของนายตั้มแล้ว นายตั้มเอาไปลงในเฟสบุ๊ก เฮียบอกว่าขายดีขึ้น ...แต่เหนื่อย (อ้าวซะงั้น) เพราะขั้นตอนการทำนั้นยุ่งยากมาก ตั้งแต่กระบวนการตากแห้ง ทั้งมะนาว ทั้งขวดซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพราะถ้าขวดไม่แห้งจริงๆ มะนาวก็จะเสียทั้งขวด และสำคัญ บางช่วงราคามะนาวต่อลูกสุดแสนจะแพง
สรุป ทุกวันนี้เฮียแกทำแบบพอเพียง.......(ภาพโดย นายตั้ม ชาติวัฒน์ สอนชุ่มเสียง)

แล้วมะนาวดองนี่เอามาทำอะไรได้ล่ะ ก็เอามาทำอาหารไงครับ อาหารประเภทต้มตุ๋นสไตล์อาหารจีน ทีเป็นที่นิยมมากๆในบ้านเราก็คงจะเป็น ไก่ตุ๋นมะนาวดอง หรือเป็ดตุ๋นมะนาวดอง ผมเคยเจอร้านข้าวมันไก่ร้านนึงไม่มีน้ำซุปให้เหมือนร้านข้าวมันไก่ทั่วไป แต่มีน้ำไก่ตุ๋นมะนาวดอง"ขาย"...ครับขายถ้วยล่ะ 5 บาท

นอกนั้นที่ผมเคยได้ชิมลิ้มลองเป็นครั้งแรกคือ น้ำมะนาวดองครับ ขอบอกว่าร้านเฮียเค้าทำได้อร่อยมากๆๆๆๆๆๆ เดินเล่นตลาดร้อนๆ มาแวะจิบน้ำมะนาวดองรสชาติจะคล้ายน้ำบ๊วย แต่รสเปรี้ยวหนักแน่นกว่า หวานกำลังดี .......(ภาพโดย นายตั้ม ชาติวัฒน์ สอนชุ่มเสียง)



เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสไปตลาดสามชุก ขอเชิญชวนให้แวะไปอุดหนุนเฮียแกนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง
(ภาพโดย นายตั้ม ชาติวัฒน์ สอนชุ่มเสียง)












วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แกะกล่องตำนานมีดพับ BUCK 110

สวัสดีครับ ประเดิมบทความแรกกันเลย จริงๆแล้วตั้งใจจะลงตั้งแต่เดือนเมษาแล้ว เพราะที่ผมจะกล่าวถึงในบทนี้เป็นของที่เกิดมาเดือนเมษายน ปีเดียวกับที่ผมเกิด
แต่ด้วยความไม่พร้อมอะไรต่ออะไรหลายอย่าง (ขี้เกียจน่ะแหละ ทำมาอ้าง) ก็เลยยังไม่ได้ลงซักที
ตอนนี้ก็ได้เพลาอันเป็นมงคลแล้ว ขอเชิญทัศนาได้นะครับ

เมื่อ 48 ปีก่อน (ปี 1964 ปีเดียวกับที่ผมเกิดเลย) บริษัท BUCK ซึ่งเป็นบริษัทผลิตมีดเก่าแก่แห่งหนึ่งในสหรัฐได้ออกแบบ และผลิตมีดพับทรงคล้ายกล้วยขนาดใบมีดยาว 3 3/4 นิ้ว  ที่มีระบบล๊อคใบมีดอยู่ด้านท้าย ตรงกั่นและท้ายด้ามจับทำด้วยทองเหลือง
หลังจากผลิตออกมาก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และยังคงสายการผลิตมาจนถึงทุกวันนี้

ผมเคยมีมีรุ่นนี้เล่มนึง ซื้้อไว้เมื่อร่วมยี่สิบปีที่แล้ว และก็ให้ชาวบ้านไปตอนมึนๆ ..

และเมื่อสองเดือนก่อนผมเกิดคิดถึงมีดรุ่นนี้ขึ้นมาเลยลองเสริชดูว่าจะหาได้ที่ไหน ปรากฏว่าฟ้าคงอยากให้ผมเสียเงิน เลยไปเจอที่นึงเขามี เลยจัดมาซะ อย่าได้ช้า...

มาดูกันนะครับ....
ส่งมาทาง EMS ...(จะต้องบอกทำไม)

เมื่อเปิดกล่องมา ก็เจอกล่องมีดมาแบบนี้



อ่ะ..ตรงรุ่น ตามเจตนารมย์แล้วตั้งใจให้พวกนายพรานใช้ในการตัด แล่หนัง ฯลฯ 

มีดรุ่นนี้จะมีซองหนังแท้มาให้ด้วย


แอ่น แอน แอ๊นนนน.....ยังคงสวยงามเหมือนเดิม


กางใบออกมา จะเห็นชื่อรุ่นที่โคนใบมีดที่ทำด้วยสแตนเลสเกรดดี ..คมกริ๊บบบ

เรื่องความคมนี่เป็นเสน่ห์ของมีดเลยน่ะครับ เพราะเป็นคุณสมบัติหลักๆของมีดแทบทุก ...ลองดูกันนะครับ

ก็คงมีเท่านี้ล่ะครับสำหรับบทนี้ ไว้พบกันใหม่นะครับ

สวัสดีครับ